ร้อยไหมมีกี่แบบ?
การร้อยไหม แบ่งเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้...
ร้อยไหมเรียบ
หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการร้อยไหม PDO ไหมชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นเส้นสั้น ๆ เส้นเรียบ ไม่มีเงี่ยง มีความยาวไม่เกิน 10 เซนติเมตร ข้อดีของไหมชนิดนี้ คือ ช่วยให้ผิวเต่งตึง สามารถลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ อันเกิดจากคอลลาเจนในชั้นผิวเสื่อมสภาพได้ โดยสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ และจะยิ่งเห็นผลชัดขึ้นเมื่อไหมละลายจนหมด
ร้อยไหมเรียบนิยมใช้เพื่อยกกระชับผิวด้านบนและสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดีกว่าไหมก้าง แต่ข้อเสียคือเส้นไหมไม่สามารถล็อกกับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังได้ เนื่องจากไม่มีเงี่ยงคอยเกี่ยวพยุงผิวไว้ ทำให้ยกกระชับได้น้อยกว่าหากเทียบกับไหมก้าง
ร้อยไหมก้าง
หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าร้อยไหมเงี่ยง ไหมชนิดนี้จะเส้นใหญ่และมีเงี่ยงคล้ายก้างปลา ซึ่งเงี่ยงนี้นี่แหละค่ะที่จะทำหน้าที่คอยล็อกเนื้อเยื่อผิวหนัง พยุงผิวให้เต่งตึงและยกกระชับขึ้น ทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อีกด้วย ข้อดีของการร้อยไหมก้าง คือ จะยกกระชับผิวได้ดีกว่าไหมเรียบ ทำให้ไม่ต้องใช้จำนวนเส้นในการร้อยไหมเยอะ สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำเสร็จ และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นในช่วง 1 เดือนหลังทำ
แต่ข้อเสียของไหมชนิดนี้ คือ เนื่องจากไหมเป็นไหมเส้นใหญ่ หลังร้อยไหมช่วงแรก ๆ จึงมีโอกาสคลำเจอเส้นไหมได้ แต่จะค่อย ๆ หายไปหลังไหมเริ่มละลาย
ร้อยไหมเกลียว
เป็นไหมละลายที่แข็งแรงกว่าไหมเรียบ เป็นเส้นม้วนคล้ายสปริง (อาจเป็นเส้นเดียวหรือสองเส้นพันกันเป็นเกลียว) ซึ่งลักษณะเกลียวของมันมีประโยชน์ตรงที่สามารถเพิ่มปริมาตรบริเวณผิวหนังที่ยุบเป็นแอ่งและยกกระชับผิวที่หย่อนยานได้
ร้อยไหมกรวย
เป็นไหมละลายรูปแบบใหม่ มีปมกลม ๆ ตามแนวเส้นไหม และมีพลาสติกทรงกรวยเล็ก ๆ อยู่ระหว่างปมของเส้นไหม มีประโยชน์ในการช่วยจับเนื้อเยื่อได้มากขึ้นโดยไม่มีผลให้เนื้อเยื่อภายในบาดเจ็บมากนัก จึงนิยมใช้เพื่อยกกระชับผิวมากกว่ากระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สามารถยกกระชับผิวได้ดีกว่าไหมรูปแบบอื่น โดยผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล
แต่ข้อเสียของการร้อยไหมกรวยคือราคาค่อนข้างสูง ใช้เวลาในการทำนาน และมีอาการปวดบวมหลังทำ (สามารถหายได้ภายใน 2-3 วัน) จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก
ทั้งนี้ เคล็ดลับการเลือกชนิดไหมที่ดีที่สุดก็คือการเลือกไหมให้ตอบโจทย์กับความต้องการของเราค่ะ เช่น หากต้องการยกกระชับใบหน้า ให้เลือกเป็นไหมก้าง แต่ถ้าอยากเน้นเรื่องการกระตุ้นคอลลาเจน ให้เลือกเป็นไหมเรียบ โดยสามารถบอกความต้องการของเราให้คุณหมอช่วยให้คำแนะนำได้เลยค่ะ
ขั้นตอนการร้อยไหมเป็นยังไง? การร้อยไหมเหมาะกับใครบ้าง? รู้ไว้เพื่อใช้เตรียมตัว
- ขั้นตอนแรกคือการเข้าปรึกษากับคุณหมอ ให้คุณหมอช่วยวิเคราะห์ปัญหาและให้คำแนะนำถึงแนวทางการแก้ปัญหา
- ซักประวัติก่อนร้อยไหม เช่น โรคประจำตัวหรือยาที่ใช้เป็นประจำ เนื่องจากตัวยาบางชนิดจะมีผลต่อการร้อยไหม เช่น แอสไพริน ดังนั้นจึงต้องตอบข้อมูลตามจริงอย่างครบถ้วน
- ก่อนร้อยไหม คุณหมอจะฉีดยาชาให้เพื่อลดความเจ็บ
- ทำสัญลักษณ์ตรงตำแหน่งที่จะร้อยไหม
- เริ่มร้อยไหม โดยการสอดเส้นไหมไปในเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังเพื่อช่วยยกกระชับผิวบริเวณที่ต้องการ และเป็นการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในชั้นผิว ผิวจะได้สร้างคอลลาเจนได้มากขึ้น ใช้เวลาในการร้อยประมาณ 20-45 นาที
การร้อยไหม จะเหมาะสำหรับคนที่อยากยกกระชับใบหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น รวมถึงลดริ้วรอยต่าง ๆ โดยไม่ต้องผ่าตัด และเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว หลังร้อยไหมจะทำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจนในบริเวณนั้น ๆ ทั้งยังทำให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงชั้นผิวบริเวณนั้นมากขึ้น ผิวจึงมีความกระชับ เต่งตึงขึ้นอย่างชัดเจน
โดยสรุปแล้ว การร้อยไหมนับเป็นหัตถการที่ช่วยยกกระชับ ปรับรูปหน้า และลดเลือนริ้วรอยที่ได้ผลเร็ว ทั้งยังเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย ผลข้างเคียงจะมีเพียงอาการบวมเล็กน้อย หรือเลือดซึมจากรอยเข็มนิดหน่อย แต่สามารถหายได้เองภายใน 7-14 วัน ส่วนผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น ไหมทะลุ ไหมขาด การติดเชื้อ ปัญหาเหล่านี้ล้วนเกิดจากการใช้บริการกับคลินิกเถื่อนหมอเถื่อนทั้งนั้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำจึงควรเลือกให้ดี เลือกใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน For V Clinic เรามีบริการร้อยไหมหลากหลายรูปแบบสนใจอ่านรายละเอียดการร้อยไหม หรือสอบถามบริการได้ที่นี่