ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด? รวมข้อควรรู้ ควรเลือกร้อยไหมแบบไหนดี
เป็นธรรมดาที่ก่อนจะตัดสินใจเสริมความงาม เราจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลของหัตถการนั้น ๆ อย่างละเอียดเสียก่อน การร้อยไหมก็เช่นกัน เราควรศึกษาก่อนว่าการร้อยไหมมีกี่แบบ และร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาคุ้มค่า ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด ดังนั้นใครที่กำลังคิดอยากร้อยไหม อยากรู้ว่าร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด ห้ามพลาดบทความนี้เด็ดขาดเลยค่ะ

ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด

ร้อยไหมมีกี่แบบ?

ก่อนจะไปหาคำตอบว่าร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด เราจำเป็นต้องรู้ก่อนว่าร้อยไหมมีกี่แบบ เพื่อจะได้ใช้ประกอบการตัดสินใจได้ดีที่สุด ซึ่งถ้าหากจะนับประเภทของเส้นไหมจริง ๆ จะแบ่งได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่ ไหมละลายและไหมไม่ละลายค่ะ

  • ไหมละลาย คือเส้นไหมที่ร่างกายสามารถย่อยสลายและดูดซึมได้ จึงสามารถสลายได้เองโดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย และเป็นประเภทเส้นไหมที่ได้รับความนิยมมากสำหรับใช้ร้อยไหมในปัจจุบันค่ะ
  • ไหมไม่ละลาย คุณสมบัติก็จะตรงข้ามกับไหมละลาย คือไม่สามารถสลายได้เอง ต้องให้แพทย์นำออกในภายหลัง โดยไหมชนิดนี้เคยใช้สำหรับร้อยไหมเมื่อหลายปีก่อน แต่ปัจจุบันไม่ได้รับความนิยมแล้ว เพราะมันไม่สามารถทนความร้อนสูงได้ จนเสี่ยงต่อการทำให้รูปหน้าบิดเบี้ยว ทั้งยังไม่สามารถผ่านเครื่อง CT Scan หรือ MRI ได้ 

เส้นไหมทำมาจากวัสดุอะไร

การเลือกเส้นไหมจากวัสดุ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกร้อยไหมแบบไหนดีที่สุดเช่นกันค่ะ โดยวัสดุที่ใช้ผลิตเส้นไหมสำหรับร้อยไหม แบ่งได้ดังนี้

  • ไหมละลาย

  • PDO (Polydioxanone) วัสดุชนิดนี้ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมันทำให้เส้นไหมมีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อแรงขยับได้ดี ทั้งยังไม่เสี่ยงต่ออาการแพ้อีกด้วย (เป็นวัสดุเดียวกับเส้นไหมที่ใช้ผ่าตัดเย็บเส้นเลือดหัวใจ)
  • PLLA (Polylactic acid) วัสดุชนิดนี้จะมีความแข็งแรง คงทน จึงสามารถอยู่ได้นาน แต่ความยืดหยุ่นจะไม่เท่า PDO ทำให้มีปัญหาเรื่องเส้นไหมเปราะ แตกหักง่าย
  • PCL (Polycaprolactone) ลักษณะเป็นสีใส แข็งแรง ทนทาน มีความเหนียวและความยืดหยุ่นสูง จึงไม่ค่อยพบปัญหาไหมขาดจากเส้นไหมที่ทำจากวัสดุชนิดนี้
  • ไหมไม่ละลาย

  • ไหมพลาสติกประเภท Polypropylene ไหมชนิดนี้เคยใช้เย็บแผลในทางการแพทย์ แต่ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมแล้ว เพราะมีผลข้างเคียงค่อนข้างเยอะ เช่น เกิดการอักเสบบริเวณปมไหม เป็นต้น อีกทั้งเส้นไหมยังมีความเปราะ แตกหักง่าย จึงไม่เหมาะกับการนำมาร้อยไหมยกกระชับใบหน้า
  • ไหมทองคำ ชื่อเรียกว่าไหมทองคำเพราะมีทองคำบริสุทธิ์เป็นองค์ประกอบ แต่ไหมชนิดนี้ไม่ทนต่อความร้อน จึงไม่นิยมนำมาใช้ร้อยไหมปรับรูปหน้าแล้ว เพราะเสี่ยงต่อการทำให้รูปหน้าผิดรูปหรือเกิดการแพ้ได้ 

ร้อยไหมมีกี่แบบ

ประเภทเส้นไหมที่เราจะนำมาใช้เปรียบเทียบว่าการร้อยไหมแบบไหนดีที่สุดในวันนี้ ได้แก่

  • เส้นไหมเรียบ (Mono threads) ไหมชนิดนี้จะมีลักษณะตามชื่อ คือเป็นเส้นเรียบ มีคุณสมบัติในการกระชับผิวให้เต่งตึง แต่ไม่สามารถยกชั้นผิวหนังได้ โดยเส้นไหมชนิดนี้นิยมใช้ร้อยบริเวณคอ หน้าผาก และใต้ตา
  • เส้นไหมเกลียว (Screw threads) ลักษณะคือเป็นเส้นไหมเส้นเดียวหรือสองเส้นเกลียวเข้าด้วยกัน ด้วยลักษณะนี้ จึงทำให้เส้นไหมเกลียวมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มปริมาตรบริเวณผิวหนังที่ยุบตัวหรือเป็นแอ่ง จึงเหมาะกับการยกชั้นผิว แก้ปัญหาเรื่องผิวหนังหย่อนยาน
  • เส้นไหมที่มีเงี่ยง (Cog threads) เป็นเส้นไหมที่มีลักษณะเป็นเส้นเดียว แต่มีเงี่ยงเล็ก ๆ ตลอดแนวเส้นไหม โดยเงี่ยงนี้จะทำหน้าที่ยึดเกาะชั้นผิวหนังและเกี่ยวยกกระชับขึ้นคล้ายตะขอ จึงได้ผลดีในการยกเนื้อเยื่อหรือผิวหนังที่หย่อนคล้อย ทั้งยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดีอีกด้วย เหมาะแก่การร้อยเพื่อยกกระชับบริเวณคางและปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น

ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด

จากประเภทของเส้นไหมที่เราได้รวบรวมมาฝาก จะเห็นได้ว่าเส้นไหมแต่ละแบบล้วนมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นการจะถามว่าร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด จึงไม่มีคำตอบที่ตายตัว เพราะต้องขึ้นอยู่กับความต้องการและปัญหาที่ต้องการแก้ไขของคนไข้เป็นหลัก ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ ให้แพทย์ช่วยวิเคราะห์และประเมินว่าสภาพปัญหาของเราควรแก้ไขด้วยเส้นไหมแบบไหน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุดค่ะ

 

สรุปแล้ว การจะเลือกว่าร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด เราจำเป็นต้องให้แพทย์ช่วยประเมินร่วมด้วย โดยดูจากความต้องการของคนไข้เป็นหลัก เนื่องจากการร้อยไหมแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียและมีคุณสมบัติแตกต่างกันนอกไป ดังนั้นก่อนเข้ารับบริการ การศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนและการพบแพทย์ก่อนตัดสินใจทำจึงจำเป็นมากค่ะ

For V Clinic เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำ และให้บริการเกี่ยวกับการร้อยไหมที่ถูกวิธี เหมาะสม และได้มาตรฐานคอยบริการคุณ สามารถสอบถามเกี่ยวกับการร้อยไหมแบบไหนที่สุดกับรูปหน้าของคุณ หรือติดต่อใช้บริการได้ที่ For V Clinic

โปรโมชั่นที่เกี่ยวข้อง
Copyright © 2022 For V Clinic , All Rights Reserved.