หนึ่งในจุดกวนใจบนใบหน้าของทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ก็คงหนีไม่พ้นส่วนเกินบริเวณใต้คาง ที่เรียกว่า “ไขมันเหนียง” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รูปหน้าขาดความเรียวกระชับได้สัดส่วน จนหลายคนหมดความมั่นใจ
ไขมันเหนียงคือไขมันใต้คางที่สะสมหนาตัวจนทำให้ผิวบริเวณนั้นหย่อนคล้อยลงมา หรือที่เรียกว่า คางสองชั้น ซึ่งการสะสมของไขมันที่ว่ามานั้น อาจเกิดจากการที่น้ำหนักตัวของเราเพิ่มขึ้น บ้างเกิดจากรรมพันธุ์ที่ส่งต่อกันมาในครอบครัว บ้างเกิดจากการที่ผิวหนังหย่อนคล้อย หรือกล้ามเนื้อใต้คอมีปัญหาหย่อนคล้อย ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดไขมันเหนียงได้เช่นกัน
การแก้ไขปัญหาไขมันเหนียง หรือคางสองชั้น มีด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักและสัดส่วนโดยรวมทั้งร่างกาย การฉีดสลายไขมัน ซึ่งตัวยาในปัจจุบันก็ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ไขมันสะสมใต้คางนั้นนับเป็นไขมันที่ฉีดสลายได้ค่อนข้างยาก ดังนั้น อีกวิธีหนึ่งที่แพทย์ด้านศัลยกรรมแนะนำ ก็คือ “การดูดไขมันเหนียง” ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนทันทีหลังทำเพียงครั้งเดียว
การดูดไขมันเหนียง เป็นเทคนิคที่เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมใต้คางค่อนข้างเยอะ หรือคนที่ต้องการปรับรูปหน้าโดยเน้นกรอบหน้าบริเวณกรามให้ชัดขึ้น รวมถึงคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว และเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว การดูดไขมันเหนียงนั้นจะเหมาะกับคนที่ยังอายุไม่มาก และผิวหนังยังสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่า ถือเป็นเทคนิคช่วยกำจัดไขมันเฉพาะจุดที่มีความปลอดภัยสูง โดยเป็นการสลายเฉพาะเซลล์ไขมัน แต่จะไม่ทำลายเนื้อเยื่อโดยรอบ จึงทำให้มีเลือดออกน้อย ส่วนการเปิดแผลขนาดเล็กเพียง 0.1 เซนติเมตร หรือเท่าหัวปากกา ด้วยอุปกรณ์เข็มขนาดเล็กพิเศษที่ได้มาตรฐาน ก็ช่วยให้คนไข้ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน และไม่มีรอยแผลเป็นอีกด้วย
ที่สำคัญ แพทย์ผู้ชำนาญจะคอยดูแลการดูดไขมันเหนียงทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด เริ่มจากการทายาฆ่าเชื้อ ตามมาด้วยการฉีดยาชา และใส่ Tumescent หรือยาเฉพาะที่ ซึ่งประกอบด้วยยาชา น้ำเกลือ และยาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัว ซึ่งจะช่วยในการขยายชั้นไขมัน และสลายไขมัน ทำให้ดูดไขมันออกมาได้ง่ายขึ้น โดยลดการเสียเลือดลงด้วย จากนั้น แพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดเล็ก 3 จุด คือบริเวณใต้คางและหลังใบหูทั้ง 2 ข้าง
เมื่อแพทย์ลงมือดูดไขมัน จะเริ่มจากการสลายเซลล์ไขมันให้แตกตัวเป็นน้ำ แล้วจึงดูดไขมันออกด้วยเครื่องมือที่ได้คุณภาพมาตรฐานและเชื่อถือได้ ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ต้องทำการเย็บปิดแผลด้วยแผลมีขนาดที่เล็กมากจึงสามารถสมานได้เองในเวลา2-3 ชม. แค่แปะแผ่นซึมซับเพื่อรองรับน้ำที่จะถูกระบายออกมานั้นก็เพียงพอ เรียกได้ว่าเป็นเทคนิคที่ปลอดภัย มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยมาก ส่งผลให้ไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว
อย่างไรก็ตาม บทบาทของแพทย์ผู้ชำนาญยังไม่สิ้นสุด แต่ยังรวมถึงการดูแลให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 1 เดือนแรกที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อให้แผลหายเร็ว ไม่เจ็บหรือบวมนาน และช่วยให้เหนียงเข้าที่เร็วยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น แพทย์ยังคอยตอบข้อสงสัยหรือให้คำปรึกษาตลอดระยะหลังการบริการ เพื่อที่ว่าหากพบความผิดปกติเกิดขึ้น จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
ขณะเดียวกัน เทคนิคการดูดไขมันเหนียงนั้นจะเหมาะกับผู้ที่ไขมันอยู่ในผิวหนังชั้นตื้นมากกว่า แต่สำหรับใครที่มีไขมันสะสมอยู่ในชั้นลึก ก็อาจต้องพิจารณาเทคนิค การผ่าตัดไขมันเหนียง เพิ่มเติม ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยแก้ปัญหาอย่างถาวรได้ค่อนข้างตรงจุด และตอบโจทย์ได้ทุกสาเหตุ ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถเข้ามาพูดคุยปรึกษากับแพทย์ เพื่อตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียด และเลือกเทคนิคการรักษาที่ดีที่สุด เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพอใจในระยะยาว ซึ่งมาพร้อมกับรูปหน้าเรียวสวย กระชับ มีมิติยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ เพิ่มความมั่นใจให้คุณได้เต็มที่