ถุงใต้ตาเกิดจากอะไร รู้สาเหตุก่อนหาวิธีแก้ไข
ก่อนจะไปทำความรู้จักกับโบท็อกถุงใต้ตา เราจำเป็นต้องรู้ต้นเหตุของปัญหาเพื่อจะได้หาทางรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยถุงใต้ตาที่เราพูดถึงในบทความนี้ หมายถึง ถุงไขมันที่อยู่บริเวณใต้ดวงตาหรือบริเวณเบ้าตาด้านล่าง เมื่อมองจากภายนอกจะเห็นเป็นถุงนูนอยู่บริเวณขอบตาล่าง ซึ่งใครหลายคนอาจจะเพิ่งรู้สึกว่าเมื่อก่อนตอนส่องกระจก ถุงใต้ตายังไม่ได้เห็นชัดขนาดนี้เลย แต่ทำไมยิ่งอายุมากขึ้น ความเหนื่อยความโทรมบริเวณใต้ตาถึงได้ยิ่งชัด ปัญหาเหล่านี้มันเกิดจากอะไรกันแน่?
อันที่จริงไม่จำเป็นต้องอายุเยอะก็มีปัญหาถุงใต้ตาได้ค่ะ โดยสาเหตุการเกิดของถุงใต้ตาสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
- ถุงใต้ตาแท้ ถุงใต้ตาชนิดนี้จะไม่สามารถหายได้เอง มักเกิดจาก
- การทำงานผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ เมื่อระบบต่อมไร้ท่อที่อยู่ในร่างกายทำงานผิดปกติ
ไขมันหรือของเหลวต่าง ๆ ก็จะไหลมาคั่งบริเวณเบ้าตาด้านล่าง ทำให้ถุงใต้ตาปูดบวมขึ้น
- พันธุกรรม หากคนในครอบครัวมีลักษณะถุงใต้ตาใหญ่ ก็อาจส่งผลให้เรามีลักษณะนี้ตามไปด้วย
- อายุที่เพิ่มขึ้น ปัจจัยนี้สามารถส่งผลกระทบได้ 2 ทาง คือ ผิวหนังเสื่อมสภาพ ทำให้พังผืดตามธรรมชาติที่มีหน้าที่กั้นไขมันและของเหลวข้างในเสื่อมสภาพลง ของเหลวเหล่านั้นจึงปูดออกมา และอีกหนึ่งสาเหตุคือกระดูกเบ้าตาเกิดการยุบตัวลง ทำให้เนื้อเยื่อที่พยุงถุงไขมันหย่อยคล้อย จึงเห็นเป็นถุงไขมันบริเวณใต้ตาชัดเจน
- ถุงใต้ตาเทียม เกิดได้จากอาการบวมน้ำ หรือระบบไหลเวียนในร่างกายไม่ดี จึงทำให้มีของเหลวไปคั่งอยู่ใต้ดวงตา ถุงใต้ตาประเภทนี้สามารถหายได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมง (และสามารถเป็นใหม่ได้ง่าย) มักมีสาเหตุมาจากการใช้ชีวิตประจำวันของเรา เช่น นอนดึก, ใช้สายตาเยอะ, ร้องไห้, สภาวะความเครียด, ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เป็นต้น
โบท็อกถุงใต้ตาคืออะไร? ใช้ช่วยแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาได้จริงเหรอ?
โบท็อกถุงใต้ตา โบท็อกใต้ตา โบท็อกริ้วรอยใต้ตา ทั้งหมดนี้คือการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน ชนิดเอ (Botulinum Toxin A) ไปยังบริเวณที่ต้องการแก้ปัญหา ทำให้เกิดการยับยั้งปลายประสาทที่เชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดจึงคลายตัวชั่วคราว ช่วยให้ผิวบริเวณนั้นไม่เกิดริ้วรอยการพับ สามารถลดเลือนริ้วรอยร่องลึกรอบดวงตาได้ ดังนั้น โบท็อกถุงใต้ตาจึงนับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยใต้ตาได้อย่างเห็นผลดี เป็นการทำให้ผิวบริเวณใต้ตาเรียบเนียนขึ้น ใต้ตาจึงดูสมูท ถุงใต้ตาดูเล็กลง ไม่บวมปูดอย่างเห็นได้ชัดเหมือนเก่า
แล้วการฉีดโบท็อกถุงใต้ตาอันตรายไหม? ด้วยความที่ดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย ใครหลายคนจึงกังวลถึงคำถามนี้ กลัวว่าฉีดแล้วตาจะดูแข็ง ดูไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งในส่วนนี้เราต้องขอบอกก่อนว่าปัจจัยสำคัญคือการเลือกคลินิกและเลือกแพทย์ผู้ทำหัตถการค่ะ โดยต้องเลือกจากคลินิกที่น่าเชื่อถือ เลือกแพทย์ผู้มีประสบการณ์สูง รู้เทคนิควิธีฉีดโบท็อกถุงใต้ตาอย่างถูกต้อง มีความแม่นยำในการเลือกยี่ห้อและปริมาณของโบท็อกถุงใต้ตาให้เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุดค่ะ
การฉีดโบท็อกถุงใต้ตาไม่ใช่หัตถการที่ให้ผลลัพธ์ถาวร ฉีดหนึ่งครั้งสามารถอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน และสามารถฉีดเพิ่มได้เรื่อย ๆ เพื่อคงผลลัพธ์ไว้โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย (โบท็อกของแท้สามารถสลายออกจากร่างกายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตราย) หลังฉีดอาจจะมีรอยช้ำหรือบวมเพียงเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นประมาณ 3-7 วัน จะเริ่มเห็นผลว่าผิวบริเวณใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น และจะใช้เวลาเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนในช่วง 1 เดือนหลังฉีด
ปัจจุบันการฉีดโบท็อกถุงใต้ตาไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด ใช้เวลารักษาเพียง 10-20 นาทีก็เรียบร้อย เพียงแต่ต้องอย่าลืมเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษา ให้คุณหมอช่วยประเมินสภาพปัญหาของเราก่อนเสมอว่ากรณีอย่างเราใช้วิธีโบท็อกถุงใต้ตาได้ไหม หรือต้องรักษาด้วยวิธีไหนถึงจะดี เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างได้ผลดีที่สุด ในส่วนนี้ ถ้าใครสนใจอยากปรึกษาปัญหากับคุณหมอนรากร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดโบท็อกประจำ For V clinic ของเรา ต้องการให้คุณหมอช่วยประเมินปัญหาและให้คำแนะนำ ก็สามารถจองคิวผ่านช่องทางต่าง ๆ ของคลินิกได้เลยนะคะ คุณหมอยินดีให้การดูแลคนไข้ทุกคนแน่นอนค่ะ